เสี่ยรับไม่ได้ พนง.แบงก์ ลั่นบริการแย่ สั่งถอน 25 ล้าน หอบไปฝากที่อื่น

เสี่ยรับไม่ได้ พนง.แบงก์ ลั่นบริการแย่ สั่งถอน 25 ล้าน หอบไปฝากที่อื่น

วันที่ 18 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เว็บไซต์ต่างประเทศชื่อ sina.com.cn ได้รายงานเรื่องราวบนดลกออนไลน์ของทางจีน ซึ่.มีเนื้อหาทำนองว่า เศรษฐีชายรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์เว่ยป๋อ บ่นเกี่ยวกับทัศนคติและบริการที่แย่สุด ๆ จากการเข้าไปใช้บริการที่ธนาคารดัง สาขาหงเหมย ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

เศรษฐีรายนี้ยังชี้ว่า จากทัศนติแย่ ๆ ของพนักงาน ทำให้เขาตัดสินใจจะถอนเงินออกทั้งหมด นำไปฝากยังธนาคารอื่น แต่เนื่องจากเงินฝากของเขามีจำนวนมาก ไม่สามารถถอนเงินกว่าสิบล้านหยวนออกมาพร้อมกันหมดในคราวเดียว เขาจึงถอนออกไปก่อน 5 ล้านหยวน (ราว 25 ล้านบาท) ซึ่งทางธนาคารต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง กว่าที่เขาจะนำเงินออกมาได้

พร้อมกันนั้นเขายังเผยภาพเงินสดกองใหญ่ ที่ถูกถอนออกมาเป็นตั้ง ๆ นำมาใส่กระเป๋าเดินทางโดยมีคนช่วยขนไปใส่ท้ายรถ

โพสต์ดังกล่าวเรียกความสนใจจากชาวเน็ตในเวลาอันรวดเร็ว แต่ต่อมากลับมีชาวเน็ตบางรายออกมาโพสต์แฉ อ้างว่าเป็นฝ่ายเศรษฐีรายนี้ที่ไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย ขณะเข้าไปในธนาคารจึงถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาขวาง ทางผู้รับผิดชอบได้พยายามเข้ามาอธิบายให้ทางเศรษฐีฟัง แต่ก็ไร้ประโยชน์ แถมเขายังสั่งให้ผู้รับผิดชอบสาขาดังกล่าวคุกเข่าด้วย

แต่ทางเศรษฐีรายดังกล่าวได้ออกมาโต้กลับ ยืนยันว่าตัวเองให้ความร่วมมือและเคารพกฎในการป้องกันเป็นอย่างดี จริงอยู่ที่ตอนแรกเขาไปถึงประตูธนาคารโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ทาง รปภ. ก็เตือน ซึ่งจากนั้นเขาก็รีบออกไปหาซื้อหน้ากากทันที ยืนยันว่าเขาให้ความร่วมมือดี แต่เป็นกลับพนักงานของธนาคารต่างหากที่มีการดึงหน้ากากมาไว้ใต้คางระหว่างปฏิบัติหน้าที่

เจ้าตัวยืนยันว่าเขาไม่ได้ต้องการบริการระดับ VVIP แค่ต้องการความสุภาพและการเคารพขั้นพื้นฐาน พร้อมปฏิเสธเรื่องที่ชาวเน็ตกล่าวหาว่าเขาสั่งให้ผู้รับผิดชอบสาขาดังกล่าวมาคุกเข่าขอโทษด้วย

ทั้งนี้ หลังจากกรณีดังกล่าวกลายเป็นประเด็น ในที่สุดทางธนาคารเซี่ยงไฮ้ก็ได้ออกมาชี้แจง ยืนยันว่ามีการสั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดและบุคคลที่เกี่ยวข้องทันที โดยพบว่า ในวันที่ 30 กันยายน ลูกค้ามาถึงธนาคาร สาขาหงเหมย ในเวลา 14.53 น. แต่เพราะลูกค้าไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ทาง รปภ. จึงเข้ามาแนะนำให้สวมหน้ากากก่อนเข้าไปในสาขา ซึ่งใน 3 นาทีต่อมา ลูกค้าก็สวมหน้ากากและกลับมาใช้บริการ จนเสร็จสิ้นการทำธุรกรรมโดยไม่มีความขัดแย้งทางอารมณ์หรือคำพูดใด ๆ

ต่อมาวันที่ 13 ตุลาคม ลูกค้าต้องการถอนเงินจำนวนมากจากบัญชี จึงต้องทำการนัดหมายเพื่อจะถอนเงิน และในวันที่ 16 ตุลาคม ลูกค้าพร้อมผู้ติดตาม 2 คนเข้ามายังธนาคาร พนักงานได้นำทางไปยังพื้นที่นั่งรอ จากนั้นเมื่อลูกค้ามาที่เคาน์เตอร์เพื่อรับเงิน ก็ได้ขอให้พนักงานเปิดกระเป๋านับเงินสดทั้งหมด ซึ่งพนักงานใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในการนับเงิน และลูกค้าก็ออกจากธนาคารไป และมาโพสต์เว่ยป๋อหลังจากนั้น

ขอบคุณข้อมูลจาก sina, sina, Breaking Latest News

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ